SHANGRI-LA FRONTIER เมื่อนักล่าเกมขยะท้าสู้ในเกมเทพ 12

【คาบุรา บี้ซอม】ฉลามครุยแห่งทะเลลึก ที่ก้นทะเลลึกแสนลึก ลึกลงไปใต้ก้นแผ่นดิน ก้นทะเลที่แสงสว่างมิอาจส่องถึง มีสิ่งนั้น ดำรงอยู่ ผู้ประทับอยู่ ณ หุบเหวซึ่งลึกยิ่งกว่า หรืออาจกล่าวได้ว่าอยู่ใกล้ชิดกับสัจธรรมแห่ง โลกมากที่สุด นั่นคือคธานิดแห่งห้วงเหว จ้าวแห่งนครห้วงเหวรุลูเอียส พรของสิ่งนั้นจะพลิกผันสัจธรรมแห่งโลก การุณย์ของสิ่งนั้นพลิกผันได้แม้แต่ความตาย พลังอำนาจของสิ่งนั้นพลิกผันได้กระทั่งผืนฟ้าเบื้องบน ผู้บุกรุกที่ย่างเหยียบรุลูเอียสที่มีจ้าวนครสถิตอยู่โดยมิได้รับเชิญนั้นจะต้องจ่ายค่า ตอบแทนด้วยชีวิต… ในฐานะตัวหมากของจ้าวนคร เพื่อต้อนรับอาคันตุกะผู้ได้รับเชิญ ในงานสังสรรค์และคลายความเบื่อหน่ายของจ้าวนคร ทุกสิ่งในดินแดนนั้นล้วนพลิกผันกลับด้าน สิ่งมีชีวิตกลายเป็นซากศพเร่ร่อน ส่วนศพ ที่ไร้ปากเสียงก็ได้รับชีวิตกลับคืนอีกครั้ง ทว่านั่นหาใช่ปาฏิหาริย์ไม่ นั่นคือพลังของ คธานิด… หากปราศจากจิตใจอันแรงกล้าที่เฝ้าคำนึงถึงตนเองก็ย่อมไม่อาจขัดขืน ด้วยเหตุนั้น เหล่ามัจฉาที่ไร้ซึ่งจิตสำนึกในตนเองอันแน่วแน่ รวมถึงซากศพของพวกมัน จึงได้รับอิทธิพลจากพลังพลิกผันของคธานิดอย่างรุนแรง รูปลักษณ์นั้น “ไม่ใช่มนุษย์” ดังนั้นจึงพลิกผันเป็น “รูปลักษณ์อย่างมนุษย์” ชีวิตนั้น “ดับสูญไปแล้ว” ดังนั้นจึงพลิกผันเป็น “ยังไม่ดับสูญ” ความตายนั้น “ไม่อาจเคลื่อนไหวอีก” ดังนั้นจึงพลิกผันเป็น “เคลื่อนไหวได้” ที่รุลูเอียสซึ่งเปี่ยมด้วยพลังของคธานิดนั้น ความตายมิได้หมายถึงการพักผ่อน หากแต่เป็นสภาวะแบบหนึ่ง ผู้ที่ไม่ได้รับอิทธิพลนั้นมีสองจำพวก พวกแรกคือแขกผู้ได้รับเชิญโดยจ้าวนคร อีกพวกหนึ่งคือผู้ที่มีอัตตาหนักแน่นไม่ยอมยกทั้งความเป็นและความตายของตนเอง ให้ผู้ใดทั้งสิ้น